ชื่องาน: สุราษฎร์มินิ – ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 8
(24 กรกฎาคม 2548)
สถานที่: ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สรุปผลการประเมิน: 76 คะแนน เกือบดี
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: สุราษฎร์มินิมาราธอน มีการแข่งขัน 3 ระยะ ได้แก่ 4K, 10K และ 21K ทั้ง 3 ระยะวิ่งบนเส้นทางเดียวกัน เป็นการวิ่งไป-กลับเส้นทางเดิม โดยออกจากจุดปล่อยตัวจากหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ฯ วิ่งตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร ผ่านศาลหลักเมืองและวิ่งข้ามสะพานแม่น้ำตาปีไปอีกฝั่ง เส้นทางหลังจากข้ามสะพานไปแล้วเป็นทางเรียบลาดยาง ไม่มีเนิน วิ่งกันง่ายๆ สบายๆ อากาศไม่ร้อน บรรยากาศก็ดีทีเดียว ตลอดเส้นทางเป็นสวนมะพร้าวสวนจาก และในช่วงกิโลสุดท้ายเป็นเส้นทางในตัวเมืองซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรของชาวสุราษฎร์ การจราจรก็เลยพลุกพล่าน ทำให้นักวิ่งที่เข้าเส้นชัยหลังวิ่งซักชั่วโมงครึ่งต้องคอยระวังรถกันบ้าง
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สนามวิ่งวันนี้เป็นสนามวิ่งที่เหมาะสำหรับนักวิ่งน้องใหม่มาก วิ่งไม่ยาก ถ้าเป็นนักวิ่งระดับแนวหน้าก็วิ่งกันสบายเรียกว่าทำเวลากันได้เต็มที่ นอกจากนั้นสุราษฎร์มินิ-ฮาล์ฟมาราธอนจะจัดขึ้นทุกๆสองปีและจัดขึ้นในช่วงเทศกาลผลไม้ของเมืองสุราษฎร์ฯ ดังนั้นจึงเป็นสนามที่น่ามาวิ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบวิ่งไปเที่ยวไปแถมกินไปได้เป็นอย่างดี...
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: สองปีจัดครั้ง ผู้จัดจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะให้งานออกมาประทับใจเพื่อนนักวิ่งทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการบริการอาหารมื้อเย็นที่อร่อยพร้อมคาราโอเกะให้นักวิ่งได้โชว์พลังเสียงก่อนโชว์ฝีเท้าในวันรุ่งขึ้น และการมอบถ้วยรางวัลที่สวยงาม กับนักวิ่งหลายๆอันดับ แถมมีของขวัญปลอบใจให้นักวิ่งที่พลาดถ้วยไปอีก นอกจากนั้นยังมีการจับรางวัลซึ่งเป็นรางวัลใหญ่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพัดลม โทรทัศน์ เครื่องเล่นวีซีดี สร้อยคอทองคำ และอื่นๆมากมาย ถึงแม้นักวิ่งจะได้รับถ้วยกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ยังคอยลุ้นรางวัลกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างรอลุ้นรางวัลก็พูดคุยกัน กินอาหารกันไปพลาง งานนี้เรียกว่า เจ้าภาพไม่บอกเลิกก็ยังไม่กลับ ก็ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากให้ผู้จัดได้ตระหนักมากขึ้นมาอีกนิดนึง นั่นคือ เส้นทางการวิ่งที่จะเป็นเอกลักษณ์ของสุราษฎร์มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ส่วนการวิ่งในบนถนนในตัวเมืองซึ่งเป็นเส้นทางจราจรหลักหากเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดี เพื่อความปลอดภัยของนักวิ่งและช่วยจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.เมืองสุราษฎร์ได้อีกทาง
24.7.48
14.7.48
บางแสนมาราธอน
ชื่องาน: บางแสนมาราธอน (14 กรกฎาคม 2548)
สถานที่: หน้า เดอะไทด์ รีสอร์ท ชายหาดบางแสน
สรุปผลการประเมิน: 70 คะแนน พอใช้ได้ ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งของสนามนี้ถือว่าเป็นสนามที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพัทยามาราธอนแต่ว่า บรรยากาศค่อนข้างดีกว่าพัทยา ไม่ร้อนมากนัก เส้นทางการวิ่งสำหรับมาราธอนนี้เป็นการวิ่งไปกลับ สตาร์ทจากบริเวณหน้าเดอะไทด์รีสอร์ท วิ่งออกผ่านไปพัทยาสาย1 ผ่านแหลมแท่น วิ่งเรียบเขาสามมุข ไปเรื่อยๆ ผ่านอ่างศิลา วิ่งตรงตามถนนไปเรื่อยๆ จากอ่างศิลา วิ่งตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปวิ่งในสวนป่าชายเลน ผ่านสำนักงานอบจ. จากนั้นวิ่งบนถนนพระยาสัจจา เกือบถึงศาลากลางจังหวัดชลบุรี แต่เลี้ยวซ้ายก่อนผ่านไปทางศาลารวมในชล ผ่านสวนตำหนักน้ำ และวิ่งตรงขึ้นไปกลับตัวบนสะพานหลังจากวิ่งมา 21 กิโลกว่า เมื่อกลับตัวก็วิ่งกลับตามเส้นทางเดิมเข้าสู่เส้นชัย เส้นทางบางแสนมาราธอนครั้งถือได้ว่าไม่เลวทีเดียวที่จะใช้เป็นเส้นทางเอกลักษณ์สำหรับบางแสนมาราธอน แต่ที่น่าเสียดายก็คือตามเส้นทางไม่ค่อยมีส่วนร่วม หรือกำลังใจจากคนในชุมชนมากนัก
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: เป็นอีกมาราธอนที่คิดว่าเหมาะกับนักวิ่งทุกระดับ เส้นทางไม่ยากเกินไป และไม่ง่าย บรรยากาศสวยงาม แต่หากมาราธอนนี้ยังมีการจัดในครั้งต่อๆไป โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง หรือช่วงเวลาการปล่อยตัว สิ่งที่อยากแนะนำนักวิ่ง และเตือนนักวิ่งเอาไว้ก็คือ ควรทายากันยุ่งป้องกันยุงกัด เพราะเส้นทางที่ผ่านบริเวณที่เป็นสวนป่าชายเลน ยุ่งเยอะมากๆ ใส่กางเกงวิ่งขายาวก็จะช่วยป้องกันได้อีกทางหนึ่ง ไม่ใช่ยุ่งเพียงแค่สิบ ยี่สิบนะคะ ขอเตือนนักวิ่งที่สนใจจะร่วมวิ่งในครั้งต่อๆไป
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: ในเรื่องของเส้นทางการแข่งขันสำหรับมาราธอนถือว่าดีพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้บางแสนมาราธอนครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องมาจากการประชาสัมพันธ์ที่จวนตัวจนเกินไป งานที่หวังจะให้ประสบความสำเร็จควรมีการวางแผนและเตรียมการให้เรียบร้อยมากกว่านี้ การประสัมพันธ์ภายในระยะเวลาเพียงเดือน สองเดือน นักวิ่งมาราธอนก็เตรียมตัวเองให้พร้อมไม่ทันเช่นกัน โดยปกติทั่วไปนักวิ่งมาราธอนที่ตั้งใจมาเพื่อแข่งขันจริงอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 3 เดือนขึ้นไปเพื่อการฝึกซ้อม ดังนั้นการประชาสัมพันธ์เพียงแค่เดือน สองเดือน หรือเพียงแค่เป็นอาทิตย์ นักวิ่งย่อมไม่พร้อมที่จะร่วมงานอยู่แล้ว นอกจากนั้นบางท่านที่อยู่ไกลก็ไม่อาจรับรู้ข้อมูลการแข่งขันได้ทันเวลา การเปลี่ยนผู้จัด หรือผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ก็ทำให้นักวิ่งไขว้เขว ไม่ไว้ใจในความพร้อมของการจัดงาน ดังนั้นหากมีงานไหนที่ทำให้นักวิ่งมั่นใจได้มากกว่านักวิ่งมีความสนใจไปร่วมงานนั้น การเปลี่ยนเส้นทางการวิ่ง จากที่ได้แจ้งไปแล้วอย่างเป็นทางการหรือที่ได้ประชาสัมพันธ์ออกไปไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นผลร้ายให้กับตัวนักวิ่งได้ หากเส้นทางที่แจ้งไว้ไม่ต่างกับเส้นทางใหม่มากนักก็ไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับนักวิ่งใหม่ๆบางท่าน หรือเพิ่งลงสนามแรก หากเส้นทางการวิ่งใหม่ยากเกินศักยภาพที่นักวิ่งได้ประเมินตัวเอง นี่แหละจะทำให้เกิดอันตรายกับนักวิ่งได้ หากไม่อันตรายแต่ก็บั่นทอนจิตใจนักวิ่งพอสมควรการจัดงานวิ่งไม่เฉพาะมาราธอนเท่านั้น รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชน ชุมชนควรเข้ามามีส่วนร่วมบ้าง และควรมีการแจ้งให้ชุมชนได้รับทราบข่าวคราวของกิจกรรมด้วย อย่างน้อยเวลานักวิ่งไม่รู้สถานที่ของงาน คนในชุมชนยังพอให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ การจัดกิจกรรมในครั้งคิดว่าเร่งรัดจนเกินไป ทำให้มีเวลาน้อย ในด้านการเตรียมการ การประชาสัมพันธ์เลยเป็นเหตุทำให้งานวิ่งในครั้งอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้จัดไดัพัฒนาและแก้ไขข้อผิดพลาดและประสบความสำเร็จในครั้งต่อๆไป
สถานที่: หน้า เดอะไทด์ รีสอร์ท ชายหาดบางแสน
สรุปผลการประเมิน: 70 คะแนน พอใช้ได้ ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งของสนามนี้ถือว่าเป็นสนามที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพัทยามาราธอนแต่ว่า บรรยากาศค่อนข้างดีกว่าพัทยา ไม่ร้อนมากนัก เส้นทางการวิ่งสำหรับมาราธอนนี้เป็นการวิ่งไปกลับ สตาร์ทจากบริเวณหน้าเดอะไทด์รีสอร์ท วิ่งออกผ่านไปพัทยาสาย1 ผ่านแหลมแท่น วิ่งเรียบเขาสามมุข ไปเรื่อยๆ ผ่านอ่างศิลา วิ่งตรงตามถนนไปเรื่อยๆ จากอ่างศิลา วิ่งตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปวิ่งในสวนป่าชายเลน ผ่านสำนักงานอบจ. จากนั้นวิ่งบนถนนพระยาสัจจา เกือบถึงศาลากลางจังหวัดชลบุรี แต่เลี้ยวซ้ายก่อนผ่านไปทางศาลารวมในชล ผ่านสวนตำหนักน้ำ และวิ่งตรงขึ้นไปกลับตัวบนสะพานหลังจากวิ่งมา 21 กิโลกว่า เมื่อกลับตัวก็วิ่งกลับตามเส้นทางเดิมเข้าสู่เส้นชัย เส้นทางบางแสนมาราธอนครั้งถือได้ว่าไม่เลวทีเดียวที่จะใช้เป็นเส้นทางเอกลักษณ์สำหรับบางแสนมาราธอน แต่ที่น่าเสียดายก็คือตามเส้นทางไม่ค่อยมีส่วนร่วม หรือกำลังใจจากคนในชุมชนมากนัก
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: เป็นอีกมาราธอนที่คิดว่าเหมาะกับนักวิ่งทุกระดับ เส้นทางไม่ยากเกินไป และไม่ง่าย บรรยากาศสวยงาม แต่หากมาราธอนนี้ยังมีการจัดในครั้งต่อๆไป โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง หรือช่วงเวลาการปล่อยตัว สิ่งที่อยากแนะนำนักวิ่ง และเตือนนักวิ่งเอาไว้ก็คือ ควรทายากันยุ่งป้องกันยุงกัด เพราะเส้นทางที่ผ่านบริเวณที่เป็นสวนป่าชายเลน ยุ่งเยอะมากๆ ใส่กางเกงวิ่งขายาวก็จะช่วยป้องกันได้อีกทางหนึ่ง ไม่ใช่ยุ่งเพียงแค่สิบ ยี่สิบนะคะ ขอเตือนนักวิ่งที่สนใจจะร่วมวิ่งในครั้งต่อๆไป
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: ในเรื่องของเส้นทางการแข่งขันสำหรับมาราธอนถือว่าดีพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้บางแสนมาราธอนครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องมาจากการประชาสัมพันธ์ที่จวนตัวจนเกินไป งานที่หวังจะให้ประสบความสำเร็จควรมีการวางแผนและเตรียมการให้เรียบร้อยมากกว่านี้ การประสัมพันธ์ภายในระยะเวลาเพียงเดือน สองเดือน นักวิ่งมาราธอนก็เตรียมตัวเองให้พร้อมไม่ทันเช่นกัน โดยปกติทั่วไปนักวิ่งมาราธอนที่ตั้งใจมาเพื่อแข่งขันจริงอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 3 เดือนขึ้นไปเพื่อการฝึกซ้อม ดังนั้นการประชาสัมพันธ์เพียงแค่เดือน สองเดือน หรือเพียงแค่เป็นอาทิตย์ นักวิ่งย่อมไม่พร้อมที่จะร่วมงานอยู่แล้ว นอกจากนั้นบางท่านที่อยู่ไกลก็ไม่อาจรับรู้ข้อมูลการแข่งขันได้ทันเวลา การเปลี่ยนผู้จัด หรือผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ก็ทำให้นักวิ่งไขว้เขว ไม่ไว้ใจในความพร้อมของการจัดงาน ดังนั้นหากมีงานไหนที่ทำให้นักวิ่งมั่นใจได้มากกว่านักวิ่งมีความสนใจไปร่วมงานนั้น การเปลี่ยนเส้นทางการวิ่ง จากที่ได้แจ้งไปแล้วอย่างเป็นทางการหรือที่ได้ประชาสัมพันธ์ออกไปไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นผลร้ายให้กับตัวนักวิ่งได้ หากเส้นทางที่แจ้งไว้ไม่ต่างกับเส้นทางใหม่มากนักก็ไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับนักวิ่งใหม่ๆบางท่าน หรือเพิ่งลงสนามแรก หากเส้นทางการวิ่งใหม่ยากเกินศักยภาพที่นักวิ่งได้ประเมินตัวเอง นี่แหละจะทำให้เกิดอันตรายกับนักวิ่งได้ หากไม่อันตรายแต่ก็บั่นทอนจิตใจนักวิ่งพอสมควรการจัดงานวิ่งไม่เฉพาะมาราธอนเท่านั้น รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชน ชุมชนควรเข้ามามีส่วนร่วมบ้าง และควรมีการแจ้งให้ชุมชนได้รับทราบข่าวคราวของกิจกรรมด้วย อย่างน้อยเวลานักวิ่งไม่รู้สถานที่ของงาน คนในชุมชนยังพอให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ การจัดกิจกรรมในครั้งคิดว่าเร่งรัดจนเกินไป ทำให้มีเวลาน้อย ในด้านการเตรียมการ การประชาสัมพันธ์เลยเป็นเหตุทำให้งานวิ่งในครั้งอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้จัดไดัพัฒนาและแก้ไขข้อผิดพลาดและประสบความสำเร็จในครั้งต่อๆไป
ป้ายกำกับ:
030 เรื่องวิ่ง,
035 วิ่งมาราธอน,
036 TRES by tsdk
13.7.48
Be yourself
Be strong enough to face the word each day.
จง... เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
Be weak enough to know you cannot do everything alone.
จง... อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง
Be generous to those who need your help.
จง... ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
Be frugal with what you need yourself.
จง... ประหยัดสิ่งที่จำเป็นไว้
Be wise enough to know that you do not know everything.
จง... จงฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Be foolish enough to believe in miracles.
จง... โง่พอที่จะเชื่อในปาฎิหาริย์
Be willing to share your joys.
จง... เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง
Be willing to share the sorrows of others.
จง... เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น
Be a leader when you see a path of others have missed.
จง... เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนลาง
Be a follower when you are shrouded in the midst of uncertainly.
จง... เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน
Be the first to congratulate an opponent who succeeds.
จง... เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง
Be the last to criticize a colleague who fails.
จง... เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน
Be sure where you next step will fall, so that you will not stumble.
จง... มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม
Be sure of your final destination, in case you are going to the wring way.
จง... มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง
Be loving to those who love you.
จง... รักคนที่รักคุณ
Be loving to those who do not love you, and they may change.
จง... รักคนที่ไม่รักคุณแล้วสักวันหนึ่ง ...เค้าอาจจะเปลี่ยนใจ
Above all, be yourself.
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง
จง... เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
Be weak enough to know you cannot do everything alone.
จง... อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง
Be generous to those who need your help.
จง... ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
Be frugal with what you need yourself.
จง... ประหยัดสิ่งที่จำเป็นไว้
Be wise enough to know that you do not know everything.
จง... จงฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Be foolish enough to believe in miracles.
จง... โง่พอที่จะเชื่อในปาฎิหาริย์
Be willing to share your joys.
จง... เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง
Be willing to share the sorrows of others.
จง... เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น
Be a leader when you see a path of others have missed.
จง... เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนลาง
Be a follower when you are shrouded in the midst of uncertainly.
จง... เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน
Be the first to congratulate an opponent who succeeds.
จง... เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง
Be the last to criticize a colleague who fails.
จง... เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน
Be sure where you next step will fall, so that you will not stumble.
จง... มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม
Be sure of your final destination, in case you are going to the wring way.
จง... มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง
Be loving to those who love you.
จง... รักคนที่รักคุณ
Be loving to those who do not love you, and they may change.
จง... รักคนที่ไม่รักคุณแล้วสักวันหนึ่ง ...เค้าอาจจะเปลี่ยนใจ
Above all, be yourself.
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง
ป้ายกำกับ:
100 ปรัชญา
7.7.48
สุรินทร์มาราธอน
ชื่องาน: สุรินทร์มาราธอน
7 กรกฎาคม 2548
สถานที่: หน้าเทศบาลเมือง จ. สุรินทร์
สรุปผลการประเมิน: 79 คะแนน เกือบดี
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งเริ่มจากในตัวเมืองสุรินทร์ บริเวณหน้าเทศบาลแล้วมุ่งหน้าไปทางวงเวียนพระยาสุรินทรภักดี แล้ววิ่งเข้าถนนปราสาท-สุรินทร์ ถึงสถาบันราชกัฎฯ เลี้ยวซ้ายไปสู่ถนนเลียบคลองส่งน้ำชลประทาน จากนั้นวิ่งเลียบคลองส่งน้ำผ่านอ่างน้ำตา ผ่านสี่แยกบายพาส ผ่านศูนย์ศิลปาชีพอิสานใต้ วิ่งไปจนถึงอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง แล้ววิ่งบนสันเขื่อน วิ่งไปเรื่อยๆจนถึงบ้ายโคกกะเพอ แล้วกลับตัวที่ระยะ 21 กิโลเมตร เส้นทางวิ่งกลับเป็นเส้นทางเดิมและกลับมาเข้าเส้นชัย ณ จุดปล่อยตัว บรรยากาศระหว่างเส้นทางการวิ่ง เป็นธรรมชาติ ท้องทุ่งนา และอ่างเก็บน้ำ ฝนตกในช่วงแรกทำให้อากาศเย็นสบาย เสียไปนิดที่เส้นทางวิ่งในช่วงแรกมืดมาก ประกอบกับฝนตกทำให้นักวิ่งต้องระวังมากขึ้นเพราะไม่เห็นเส้นทาง
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สำหรับนักวิ่งสนามนี้เป็นมาราธอนอีกสนามที่ถึงแม้เส้นทางจะไม่ท้าทายเหล่าบรรดามนุษย์มาราธอนเอาเท่าใดนักเพราะเป็นเส้นทางเรียบตลอด ไม่มีเนิน แต่บรรยากาศและทิวทัศน์ก็ถือว่าสวยงามไม่น้อย นักวิ่งสามารถวิ่งกันได้สบายๆ
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: การจัดครั้งนี้เป็นการคืนกลับมาของสุรินทร์มาราธอนอีกครั้งซึ่งปกติจะจัดเพียงแค่ฮาล์ฟมาราธอน ก็อยากให้ผู้จัดจัดมาราธอนนี้ต่อเนื่องต่อไปอีก และในการจัดครั้งต่อๆไป ก็อยากให้หน่วยงานของภาครัฐอีกหลายๆหน่วยงานเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมมากขึ้นกว่านี้ รวมไปถึงชุมชนด้วย ถึงแม้ระหว่างเส้นทางการวิ่งจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติของท้องทุ่งนา และอ่างเก็บน้ำก็ตาม การวิ่งไปกลับเส้นทางเดิมก็อาจไม่ทำให้นักวิ่งสะดุดสะดุดใจมากนัก ดังนั้นหากชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วม มีกองเชียร์ตามเส้นทางการวิ่งก็จะดีไม่น้อยทีเดียว...
7 กรกฎาคม 2548
สถานที่: หน้าเทศบาลเมือง จ. สุรินทร์
สรุปผลการประเมิน: 79 คะแนน เกือบดี
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งเริ่มจากในตัวเมืองสุรินทร์ บริเวณหน้าเทศบาลแล้วมุ่งหน้าไปทางวงเวียนพระยาสุรินทรภักดี แล้ววิ่งเข้าถนนปราสาท-สุรินทร์ ถึงสถาบันราชกัฎฯ เลี้ยวซ้ายไปสู่ถนนเลียบคลองส่งน้ำชลประทาน จากนั้นวิ่งเลียบคลองส่งน้ำผ่านอ่างน้ำตา ผ่านสี่แยกบายพาส ผ่านศูนย์ศิลปาชีพอิสานใต้ วิ่งไปจนถึงอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง แล้ววิ่งบนสันเขื่อน วิ่งไปเรื่อยๆจนถึงบ้ายโคกกะเพอ แล้วกลับตัวที่ระยะ 21 กิโลเมตร เส้นทางวิ่งกลับเป็นเส้นทางเดิมและกลับมาเข้าเส้นชัย ณ จุดปล่อยตัว บรรยากาศระหว่างเส้นทางการวิ่ง เป็นธรรมชาติ ท้องทุ่งนา และอ่างเก็บน้ำ ฝนตกในช่วงแรกทำให้อากาศเย็นสบาย เสียไปนิดที่เส้นทางวิ่งในช่วงแรกมืดมาก ประกอบกับฝนตกทำให้นักวิ่งต้องระวังมากขึ้นเพราะไม่เห็นเส้นทาง
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สำหรับนักวิ่งสนามนี้เป็นมาราธอนอีกสนามที่ถึงแม้เส้นทางจะไม่ท้าทายเหล่าบรรดามนุษย์มาราธอนเอาเท่าใดนักเพราะเป็นเส้นทางเรียบตลอด ไม่มีเนิน แต่บรรยากาศและทิวทัศน์ก็ถือว่าสวยงามไม่น้อย นักวิ่งสามารถวิ่งกันได้สบายๆ
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: การจัดครั้งนี้เป็นการคืนกลับมาของสุรินทร์มาราธอนอีกครั้งซึ่งปกติจะจัดเพียงแค่ฮาล์ฟมาราธอน ก็อยากให้ผู้จัดจัดมาราธอนนี้ต่อเนื่องต่อไปอีก และในการจัดครั้งต่อๆไป ก็อยากให้หน่วยงานของภาครัฐอีกหลายๆหน่วยงานเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมมากขึ้นกว่านี้ รวมไปถึงชุมชนด้วย ถึงแม้ระหว่างเส้นทางการวิ่งจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติของท้องทุ่งนา และอ่างเก็บน้ำก็ตาม การวิ่งไปกลับเส้นทางเดิมก็อาจไม่ทำให้นักวิ่งสะดุดสะดุดใจมากนัก ดังนั้นหากชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วม มีกองเชียร์ตามเส้นทางการวิ่งก็จะดีไม่น้อยทีเดียว...
ป้ายกำกับ:
030 เรื่องวิ่ง,
035 วิ่งมาราธอน,
036 TRES by tsdk
3.7.48
เขาสามมุก ซุปเปอร์มินิ- ฮาล์ฟมาราธอน
ชื่องาน: เขาสามมุก ซุปเปอร์มินิ- ฮาล์ฟมาราธอน
(3 กรกฎาคม 2548)
สถานที่: แหลมแท่น จ.ชลบุรี
สรุปผลการประเมิน: 65 คะแนน พอใช้ได้แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งของสนามนี้ถือว่าเป็นสนามที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพัทยามาราธอนเป็นอย่างมาก คือวิ่งบนถนนเรียบลาดยาง มีเนินสูงให้ได้ฝึกซ้อม แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะสูงกว่าพัทยามากกว่าหน่อย เพราะต้องขึ้นเขาสามมุก แต่สภาพอากาศก็ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เขาสามุกซุปเปอร์มินิ- ฮาล์ฟมาราธอน อากาศดูจะเย็นสบายๆ กว่า เนื่องจากเวลาปล่อยตัวค่อนข้างเร็ว และระยะทางเพียงแค่ 30 กม.เท่านั้น (หากเป็นพัทยามาราธอนยังต้องต่อกันอีก 12 กม. ซึ่ง 12 กิโลสุดท้ายนับว่าเป็นระยะที่ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจนักวิ่งมาราธอนอยู่แล้ว แถมมีเนินให้ขึ้นกันช่วงท้ายๆอีก แล้วยิ่งสายมากขี้นอากาศก็ยิ่งร้อนมากขี้นๆ นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำไมพัทยามาราธอน ถูกขนานนามว่าเป็นสนามที่โหดที่สุดของไทย)
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สนามนี้เป็นสนามที่ผู้จัดถือว่า จัดเพื่อนักวิ่งให้เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับพัทยามาราธอนไปในตัว ดังนั้นสนามนี้จึงเป็นสนามที่นักวิ่งน้องใหม่ที่สนใจจะลง ฮาล์ฟครั้งแรก ก็มาลง 15 กม.ในงานนี้ หรือใครที่สนใจจะลงมาราธอน 42 กม. ก็มาลง 30กม.ในงานนี้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้ไม่น้อยทีเดียว หลังจากวิ่งสนามนี้เสร็จ นักวิ่งก็ยังมีเวลาพัก 1 อาทิตย์ เพื่อลงเตรียมลงสนามจริงในงานวิ่งอินเตอร์อย่างพัทยามาราธอน เป็นสนามที่เหมาะเจาะทั้งเวลาและเส้นทาง
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: ในเรื่องของเส้นทางการแข่งขันและ วัน เวลาในการจัดวิ่งของสนามนี้ถือว่า เป็นอะไรที่ลงตัวเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากสนามนี้เป็นสนามที่นักวิ่งน้องใหม่หลายๆคน อาจไม่เคยวิ่งระยะ ฮาล์ฟ หรือ มาราธอนกันมาก่อน แต่ด้วยเป้าหมายที่จะพิชิตพัทยามาราธอน หรือพัทยาฮาล์ฟมาราธอน จึงตั้งใจที่จะใช้สนามนี้เป็นสนามซ้อมใหญ่เลยก็ว่าได้ ดังนั้นก็อยากให้ผู้จัดได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักวิ่งให้มากขึ้น การบริการน้ำที่พอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย และช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งมากขึ้น ไม่อยากให้นักวิ่งที่มาลง 15 กม. แล้วเปลี่ยนใจไปลงแค่ 10 กม. หรือวิ่ง 30 กม. แต่เปลี่ยนใจไปลงแค่ฮาล์ฟมาราธอนในงานพัทยามาราธอน เหล่านี้เป็นต้น
(3 กรกฎาคม 2548)
สถานที่: แหลมแท่น จ.ชลบุรี
สรุปผลการประเมิน: 65 คะแนน พอใช้ได้แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งของสนามนี้ถือว่าเป็นสนามที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพัทยามาราธอนเป็นอย่างมาก คือวิ่งบนถนนเรียบลาดยาง มีเนินสูงให้ได้ฝึกซ้อม แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะสูงกว่าพัทยามากกว่าหน่อย เพราะต้องขึ้นเขาสามมุก แต่สภาพอากาศก็ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เขาสามุกซุปเปอร์มินิ- ฮาล์ฟมาราธอน อากาศดูจะเย็นสบายๆ กว่า เนื่องจากเวลาปล่อยตัวค่อนข้างเร็ว และระยะทางเพียงแค่ 30 กม.เท่านั้น (หากเป็นพัทยามาราธอนยังต้องต่อกันอีก 12 กม. ซึ่ง 12 กิโลสุดท้ายนับว่าเป็นระยะที่ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจนักวิ่งมาราธอนอยู่แล้ว แถมมีเนินให้ขึ้นกันช่วงท้ายๆอีก แล้วยิ่งสายมากขี้นอากาศก็ยิ่งร้อนมากขี้นๆ นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำไมพัทยามาราธอน ถูกขนานนามว่าเป็นสนามที่โหดที่สุดของไทย)
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: สนามนี้เป็นสนามที่ผู้จัดถือว่า จัดเพื่อนักวิ่งให้เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับพัทยามาราธอนไปในตัว ดังนั้นสนามนี้จึงเป็นสนามที่นักวิ่งน้องใหม่ที่สนใจจะลง ฮาล์ฟครั้งแรก ก็มาลง 15 กม.ในงานนี้ หรือใครที่สนใจจะลงมาราธอน 42 กม. ก็มาลง 30กม.ในงานนี้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้ไม่น้อยทีเดียว หลังจากวิ่งสนามนี้เสร็จ นักวิ่งก็ยังมีเวลาพัก 1 อาทิตย์ เพื่อลงเตรียมลงสนามจริงในงานวิ่งอินเตอร์อย่างพัทยามาราธอน เป็นสนามที่เหมาะเจาะทั้งเวลาและเส้นทาง
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: ในเรื่องของเส้นทางการแข่งขันและ วัน เวลาในการจัดวิ่งของสนามนี้ถือว่า เป็นอะไรที่ลงตัวเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากสนามนี้เป็นสนามที่นักวิ่งน้องใหม่หลายๆคน อาจไม่เคยวิ่งระยะ ฮาล์ฟ หรือ มาราธอนกันมาก่อน แต่ด้วยเป้าหมายที่จะพิชิตพัทยามาราธอน หรือพัทยาฮาล์ฟมาราธอน จึงตั้งใจที่จะใช้สนามนี้เป็นสนามซ้อมใหญ่เลยก็ว่าได้ ดังนั้นก็อยากให้ผู้จัดได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักวิ่งให้มากขึ้น การบริการน้ำที่พอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย และช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งมากขึ้น ไม่อยากให้นักวิ่งที่มาลง 15 กม. แล้วเปลี่ยนใจไปลงแค่ 10 กม. หรือวิ่ง 30 กม. แต่เปลี่ยนใจไปลงแค่ฮาล์ฟมาราธอนในงานพัทยามาราธอน เหล่านี้เป็นต้น
ป้ายกำกับ:
030 เรื่องวิ่ง,
031 สนามวิ่งเมืองไทย,
036 TRES by tsdk
2.7.48
วัฒนามินิมาราธอน ครั้งที่ 1
ชื่องาน: วัฒนามินิมาราธอน ครั้งที่ 1
วันที่ 2 กรกฎาคม 48
สถานที่: ร.ร. วัฒนาวิทยาลัย กรุงเทพ
สรุปผลการประเมิน: 68 คะแนน พอใช้ได้แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งวัฒนาวิทยาลัย เป็นการวิ่งไป-กลับ บนถนนสุขุม ซึ่งเป็นทางเรียบตลอดเส้นทาง ไม่มีสะพานหรือเนินแต่อย่างใด เส้นทางที่วิ่งเป็นถนนสายหลักที่ปกติมีการจราจรคับคั่ง ดังนั้นถีงแม้จะมีการปิดเส้นทางการจราจรบางส่วน แต่บรรยากาศการวิ่งก็เต็มไปด้วยฝุ่นควันรถยนต์
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: ถึงแม้จะมีการปิดถนนสายสุขุมวิทบางส่วนให้นักวิ่ง แต่บรรยากาศบนถนนก็ยังคราคร่ำไปด้วย รถ ฝุ่น และควัน ดังนั้นนักวิ่งที่เป็นภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการวิ่งบนถนนสุขุมวิท เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของตัวท่านเอง
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: การเลือกเส้นทางการวิ่งเพื่อจัดการแข่งขัน หรือจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้งานวิ่งประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก เพราะนักวิ่งโดยส่วนใหญ่ออกวิ่งกันเพื่อสุขภาพ หากต้องมาวิ่งในบริเวณที่มีมลพิษในอากาศ นักวิ่งโดยส่วนใหญ่เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง ดังนั้นในการจัดครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกผู้จัดอาจไม่ได้ตระหนักตรงจุดนี้ มากนัก อาจเน้นถึงความสะดวกโดยใช้สถานที่ขององค์กรเป็นที่ตั้ง ในฐานะนักวิ่งก็อยากให้ผู้จัดเลือกใช้เส้นทางอื่นจะดีกว่าในการจัดครั้งต่อๆไป
วันที่ 2 กรกฎาคม 48
สถานที่: ร.ร. วัฒนาวิทยาลัย กรุงเทพ
สรุปผลการประเมิน: 68 คะแนน พอใช้ได้แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
เส้นทางการเดิน-วิ่ง: เส้นทางการวิ่งวัฒนาวิทยาลัย เป็นการวิ่งไป-กลับ บนถนนสุขุม ซึ่งเป็นทางเรียบตลอดเส้นทาง ไม่มีสะพานหรือเนินแต่อย่างใด เส้นทางที่วิ่งเป็นถนนสายหลักที่ปกติมีการจราจรคับคั่ง ดังนั้นถีงแม้จะมีการปิดเส้นทางการจราจรบางส่วน แต่บรรยากาศการวิ่งก็เต็มไปด้วยฝุ่นควันรถยนต์
คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง: ถึงแม้จะมีการปิดถนนสายสุขุมวิทบางส่วนให้นักวิ่ง แต่บรรยากาศบนถนนก็ยังคราคร่ำไปด้วย รถ ฝุ่น และควัน ดังนั้นนักวิ่งที่เป็นภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการวิ่งบนถนนสุขุมวิท เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของตัวท่านเอง
คำแนะนำสำหรับผู้จัด: การเลือกเส้นทางการวิ่งเพื่อจัดการแข่งขัน หรือจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้งานวิ่งประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก เพราะนักวิ่งโดยส่วนใหญ่ออกวิ่งกันเพื่อสุขภาพ หากต้องมาวิ่งในบริเวณที่มีมลพิษในอากาศ นักวิ่งโดยส่วนใหญ่เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง ดังนั้นในการจัดครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกผู้จัดอาจไม่ได้ตระหนักตรงจุดนี้ มากนัก อาจเน้นถึงความสะดวกโดยใช้สถานที่ขององค์กรเป็นที่ตั้ง ในฐานะนักวิ่งก็อยากให้ผู้จัดเลือกใช้เส้นทางอื่นจะดีกว่าในการจัดครั้งต่อๆไป
ป้ายกำกับ:
030 เรื่องวิ่ง,
031 สนามวิ่งเมืองไทย,
036 TRES by tsdk
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)