26.1.51

ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี

ประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นประเพณีทางพุทธศาสนา ของชาวอุบลฯ ซึ่งมีความเจริญในพุทธศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้กำหนดจัดงานขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 และแรม 1 ค่ำเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จัดให้มีขึ้นทุกปี
จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ ได้ความว่า ชาวอุบลราชธานี ได้ทำต้นเทียนประกวดประชันความวิจิตรบรรจงกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2470 จนเมื่อปี พ.ศ.2520 จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษา ให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมโหฬาร สถานที่จัดงานคือ บริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข มีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก โดยขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ พร้อมนางฟ้าประจำต้นเทียน จะเคลื่อนขบวนจาก หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ไปตามถนน มาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง และการแสดงสมโภชต้นเทียน แลเป็นแสงไฟต้องลำเทียนงามอร่ามไปทั้งงาน การจัดงาน จะจัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม ของทุกปี


กิจกรรมหลักๆ จะจัดขึ้นบริเวณทุ่งศรีเมือง ส่วนกิจกรรมพิเศษอื่นๆ จะจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี นอกจากจะเป็นงานที่แสดงออกถึง การยึดมั่นสืบสานงานบุญทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวเมืองอุบลฯ แล้ว ยังเป็นงานที่แสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะของสกุลช่างเมืองอุบลฯ อีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากบรรดาช่างศิลป์เมืองอุบลฯ ที่มีอยู่มากมายหลากหลายแขนง และผลิตงานด้านศิลปอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปร่วมสมัย งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และงานก่อสร้างตกแต่งโบสถ์วิหารต่างๆ จะใช้โอกาสในช่วงเทศกาลนี้กลับมาทดสอบ ทดลองและประลองฝีมีเชิงช่างโดยผ่านต้นเทียนพรรษา ดังนั้น ผู้ที่มาร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี จึงสามารถชื่นชมและศึกษากิจกรรมของงาน ทั้งในด้านการสืบสานจารีตประเพณีพื้นเมือง และในด้านศิลปการตกแต่งต้นเทียนกิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ๆ ได้แก่











1. เยือนชุมชน ชมวิถีวัฒนธรรมการตกแต่งต้นเทียน การไปเยือนชุมชน หรือ คุ้มวัดต่าง ๆ ในช่วงที่กำลังเตรียมการตกแต่งต้นเทียน คือในช่วงประมาณ 2-3 วัน ก่อนวันแห่นั้น นอกจากผู้มาเยือนจะได้ศึกษากรรมวิธีและขั้นตอน การตกแต่งเทียนอันเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นแล้ว ยังจะได้สัมผัสบรรยากาศการร่วมแรงร่วมใจ ของชุมชนในการทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นวิถีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของชาวอุบลฯ สำหรับคุ้มวัดที่น่าสนใจ เช่น วัดบูรพา วัดหนองบัว วัดสว่างอารมณ์ วัดศรีประดู่ทรงธรรม วัดสุทัศวนาราม วัดทุ่งศรีเมือง และวัดผาสุการาม เป็นต้น

2. การเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชาที่วัดงามในเมืองอุบลฯ การเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชาจัดขึ้นในช่วงค่ำของ ตามวัดต่างๆ โดยทั่วไปกิจกรรมนี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่จะได้ชื่นชมเอกลักษณ์ ทางสถาปัตยกรรมพื้นเมือง อันงดงามตามวัดต่างๆ ในอีกมิติหนึ่ง
3. การตั้งแสดงต้นเทียนรอบทุ่งศรีเมือง การแสดงงานศิลปะตกแต่งเทียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในช่วงค่ำของวันอาสาฬหบูชา จะเป็นเวลาที่ต้นเทียน พรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ กว่า 30 ต้น จะถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งไว้ ณ บริเวณถนนรอบๆ ทุ่งศรีเมือง เพื่อเตรียมการเข้าร่วมขบวนแห่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงนี้ต้นเทียนจะได้รับการตกแต่งอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับสถานที่ตั้งจะได้รับการจัดเตรียมไว้อย่างดี เช่น การเตรียมแสงไฟไว้สาดส่องต้นเทียนการประดับประดาบริเวณงาน อย่างเป็นระเบียบ ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชื่นชมศิลปการตกแต่งเทียนอย่างละเอียดละออ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา และอาจกล่าวได้ว่าเป็นการแสดงศิลปะตกแต่งเทียนที่งดงาม และสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย


4. กิจกรรมขบวนแห่เทียนพรรษา จะจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น คือวันเข้าพรรษา ตั้งแต่เวลา ประมาณ 08.00 น. เป็นต้นไป โดยจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนอุปราช ผ่านหน้าศาลากลาง ไปถนนชยางกูร เป็นระยะทางประมาณ 2-3 กม. จึงสลายขบวน รูปแบบของการจัดขบวนประกอบด้วย ขบวนเทียนหลวงพระราชทาน ขบวนต้นเทียนของคุ้มวัดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละขบวนจะประกอบด้วยการแสดง การละเล่น การฟ้อนรำ การบรรเลงดนตรีในรูปแบบของศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การเข้าชมขบวนแห่ ่คณะกรรมการจัดงานจะจัดเตรียมอัฒจันทร์นั่งชมไว้บริการ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด อัตราค่าบริการประมาณท่านละ200 บาท ส่วนการเข้าชมขบวนตามจุดอื่นๆ นั้นสามารถชมได้ตามอัธยาศัยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ขบวนดังกล่าวปกติจะเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย

5. กิจกรรมทำบุญถวายเทียนพรรษา เป็นกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของประเพณีบุญเข้าพรรษา โดยพุทธศาสนิกชนจะนำเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ ไปถวายพระสงฆ์ตามวัดใกล้บ้านเพื่อสืบสานงานบุญและเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง กิจกรรมนี้ผู้มาเยือนสามารถศึกษาชื่นชมและร่วมกิจกรรมได้ตามวัดทั่ว ๆ ไป

6. กิจกรรมอื่นๆ นอกจากกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว คณะกรรมการจัดงานยังได้จัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การจัดงานพาแลง และการประกวดธิดาเทียนพรรษา ณ ลานเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง

ประเพณีผีตาโขน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนนั้น นับเป็นประเพณีที่ชาวด่านซ้ายและชาวบ้านอำเภอใกล้เคียงได้สืบสานกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ แต่มีการเล่นการจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอด่านซ้าย จนกระทั่งกลายเป็นประเพณีที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยการละเล่นผีตาโขนนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีบุญหลวง ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น ที่รวมเอา "งานบุญพระเวส" (ฮีตเดือนสี่) และ "งานบุญบั้งไฟ" (ฮีตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าถ้าใครได้ฟังเทศน์ครบทั้ง 13 กัณฑ์จะได้อานิสงค์แรงกล้า บันดาลให้เกิดไปพบพระศรีอริยเมตไตรย์ในชาติหน้า

ส่วนงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมืองและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งในงานบุญหลวงนี้จะมี "การละเล่นผีตาโขน" ช่วยสร้างความสนุกสนานครื้นเครงในขบวนแห่ด้วย การละเล่นผีตาโขนถือเป็นการแสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันดีงามน่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของชาวอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพราะปัจจุบันมีอยู่เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ชาวด่านซ้ายนั้นจะรอคอยให้ถึงวันงานอย่างใจจดใจจ่อ และตระเตรียมทำหน้ากากผีตาโขนกันอย่างประณีตบรรจงให้สวยงาม เหมือนจะเป็นการประกวดประขันประชันฝีมือกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยหน้ากากผีตาโขนนั้นมักทำจากหวดนึ่งข้าวเก่าๆ นำมาทำเป็นโครง ตกแต่งติดจมูกแหลมโง้งยื่นยาวออกมา แล้วทาสีพื้นก่อนเขียนวาดลวดลายอันอ่อนช้อยงดงามด้วยสีสันสดใส ผีตาโขนที่จะเข้าขบวนแห่นั้น แบ่งออกได้เป็นสองขนาด คือ ผีตาโขนใหญ ่ และ ผีตาโขนเล็ก
สำหรับผีตาโขนใหญ่นั้นจะจัดทำขึ้นเพียง 2 ตัว คือ หญิง 1 ชาย 1 เท่านั้น ผีตาโขนใหญ่จะทำขึ้นจากโครงไม้ไผ่คล้ายกับสุ่มไก่ขนาดใหญ่ จากนั้นก็ตกแต่งด้วยผ้าจนมองไม่เห็นโครงไม้ไผ่ เมื่อเข้าขบวนแห่ก็จะมีคนเข้าไปอยู่ภายในเพื่อยกโครงไม้ไผ่เคลื่อนไปตามขบวน ลักษณะพิเศษของผีตาโขนใหญ่อีกอย่างหนึ่ง คือ จะทำเครื่องเพศหญิง ชายไว้อย่างชัดเจน ผีตาโขนใหญ่นี้บุคคลทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตจัดทำขึ้น มีเพียงกลุ่มคนที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำมาหลายชั่วอายุคนเท่านั้น และก่อนทำก็จะต้องมีการขอขมาสิ่งศักดิ์ก่อน จึงจะสามารถขึ้นโครงร่างได้















สำหรับผีตาโขนเล็ก หรือ ผีตาโขน ที่เราจะพบเห็นในขบวนแห่ทั่วไปนั้น ชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เคียงจะจัดทำขึ้นเพื่อเข้าร่วมขบวนแห่ เดิมทีนั้นจะมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ร่วมขบวนแห่ แต่ปัจจุบันมีการจัดขบวนของทางโรงเรียนซึ่งมีนักเรียนหญิงแต่งกายเป็นผีตาโขนเข้าร่วมด้วย การแต่งกายของผีตาโขนนั้น จะนำเศษผ้ามาเย็บเป็นชุดเพื่อปิดบังร่างกาย และสวมหน้ากากที่ทำขึ้นจากโคนของทางมะพร้าว นำมาตัดแต่งให้เป็นรูปหน้า รูปตา และเติมจมูกยาว ๆ คล้ายกับงวงช้าง ทำการวาดลวดลายเติมสีสันอย่างสวยงาม ส่วนหัวที่ทำคล้ายเขาของผีตาโขนนั้น จะนำเอาหวดนึ่งข้าวที่ทำด้วยไม้ไผ่มาเย็บต่อจากกาบมะพร้าวนั่นเอง และสิ่งที่ ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ "หมากกะแหล่ง" หรือ กระดึงสำหรับผูกคอวัว นำมาห้วยเป็นพวกไว้ที่เอว เพื่อเวลาเดินจะเกิดเสียงดังตลอดเวลา ปัจจุบันมีการนำกระป๋องมาบรรจุลูกหินเผื่อใช้แทนหมากกะแหล่ง ส่วนชุดของผีตาโขนนั้นก็มักจะใช้เสื้อผ้า มุ้ง ผ้าห่ม หรือเศษผ้าเก่าๆมาตัดเย็บเล่นสีสันลวดลาย หรืออาจมีการระบายสีเพิ่มเติม โดยชุดผีตาโขนและหน้ากากผีตาโขนนั้นจะทำกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในระยะหลังๆนี้มีการลงทุนตัดชุดกันอย่างสวยงาม ซึ่งพอถึงวันเล่นผีตาโขน เมื่อทุกคนสวมใส่ชุดเข้าไปและสวมหน้ากากก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทุกตนก็จะกลายเป็นผีหมด ทั้งผีเล็กผีใหญ่ รวมทั้งผีตัวน้อยๆ ลงไปถึงผีตัวจิ๋วระดับอนุบาล ก็จะสนุกสนานกับการเต้นรำเดินหลอกหลอน ล้อเล่นกับผู้คนไปทั่วทั้งเมือง เรียกว่าสนุกสนานกันอย่างสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่ต้องวางมาด ไม่ต้องเก๊กหล่อเหมือนเช่นทุกๆวัน จึงเป็นงานที่สนุกสนานกันอย่างสุดๆของบรรดาผีหนุ่มๆ ที่มักชอบเดินเที่ยวแถเข้าไปเต้นหลอกหลอนเต้นรำต้อนสาวๆ


อาวุธประจำกายของผีตาโขนเป็น ดาบไม้ แต่มีไม่น้อยที่นิยมถือ ปลัดขิก ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เย้าแหย่สาว ๆ ที่มาชมขบวนแห่เป็นที่สนุกสนานโดยไม่มีการถือโกรธกันแต่อย่างใด ไม่ถือเป็นเรื่องหยาบ หรือลามกเพราะมีความเชื่อกันว่าหากเล่นตลกและนำอวัยวะเพศชายหญิงมาเล่นมาโชว์ในพิธีแห่และงานบุญบั้งไฟจะทำให้ พญาแถน พอใจ ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์
ในขบวนแห่ผีตาโขนนั้น ชาวด่านซ้ายจะร่วมกันสร้างผีตาโขนใหญ่ เป็นผีตาโขนชาย และผีตาโขนหญิง ซึ่งจะมีขนาดสูงใหญ่โดดเด่นแห่ไปในขบวน และคงไม่ต้องบอกว่าผีตาโขนใหญ่ตนไหนเป็นผีตาโขนชาย ตนไหนเป็นผีตาโขนหญิง เพราะแต่ละตนจะมีอวัยวะประจำกายบ่งบอกเสร็จสรรพ ซึ่งใครเห็นก็คงต้องอมยิ้ม สิ่งเหล่านี้ ความเชื่อเหล่านี้เป็นประเพณีที่สืบสานกันมาแต่ครั้งโบราณกาล ซึ่งเรามักจะเห็นสัญลักษณ์เหล่านี้ได้ตามขบวนแห่เช่นในขบวนแห่บั้งไฟ หรือขบวนแห่นางแมวขอฝน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการก่อเกิด สัญลักษณ์ของความเพิ่มพูน สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นความรื่นเริงสนุกสนานบันเทิงของผู้คนในทุกยุคทุกสมัย

นอกจากการแห่ไปเป็นขบวนทั่วทั้งเมืองด่านซ้ายอย่างเป็นพิธีรีตองแล้ว บรรดาผีตาโขนก็มักจะรวมกลุ่มกัน ออกเดินหยอกล้อผู้คนที่มาเที่ยวงานไปทั่วทั้งเมืองอย่างสนุกสนาน จนมืดค่ำดึกดื่น กระทั่งเสร็จพิธีในวันสุดท้าย ซึ่งวิธีปฏิบัติในอดีตนั้น เมื่อจบงานบรรดาผีตาโขนก็จะนำหน้ากากและเครื่องแต่งกายผีตาโขนไปทิ้งและไม่มีการนำมาเล่นกันอีกจนกว่าจะถึงวันงานประเพณีในปีหน้า แต่ในปัจจุบันการทำหน้ากากผีตาโขน และเครื่องแต่งกายผีตาโขนนั้นมีการลงทุนใช้วัสดุอย่างดี ใช้ผ้าที่สวยงามตัดเย็บเป็นชุดผีตาโขน ในทางปฏิบัติจึงเปลี่ยนไป โดยจะเก็บรักษาหน้ากากและชุดผีตาโขนไว้เพื่อนำมาเล่นใหม่ในปีหน้า ใครที่ยังไม่เคยเดินทางไปชมผมอยากจะแนะนำให้ลองไปชมประเพณีอันสนุกสนานนี้สักครั้ง และคงต้องรีบตัดสินใจสักหน่อย เพราะด่านซ้ายเป็นเพียงอำเภอชายแดนเล็กๆ ของจังหวัดเลย ที่พักมีน้อยต้องรีบจองรีบหา หรือไม่ก็อาจจะเลือกพักในตัวเมืองเลย หรืออำเภออื่นๆอย่างภูเรือแล้ววิ่งรถมาชมงานก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

เพลง ระบำสุโขทัย











เพลง ระบำศรีวิชัย

สองชั้น
/----/-ร-ฟ/-ด-ร/-ฟ--/-ฟซล/-ดํ-รํ/-ฟํ-รํ/-ฟํ-รํ/
/----/-ดํ-ล/-ดํ-รํ/-ฟํ-รํ/-ล-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ล/ซฟ-ซ/
/----/---ด/----/---ซ/---ฟ/-ซ-ด/-ซ-ฟ/ซฟซซ/
/----/---ด/---ร/---ฟ/--ซฟ/-ซ-ล/-ดํ-ล/-ดํ-ล/
/----/-ดํ-ล/-ดํ-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/ดรดด/
/----/-ด-ล/--ดลฺ/ดลฺดด/---ลฺ/ดลฺดด/-ลฺดด/-ดฺดด/ *4

ชั้นเดียว 1
/---ด/-ร-ฟ/ซฟซล/-ดํ-ล/-ดํ-ล/-ซ-ล/-ดํ-รํ/-ดํดํดํ/
/---รํ/-ดํ-ล/-ซ-ล/ซฟ-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/-ดดด/ *2
เที่ยว2 เปลี่ยนสองห้องสุดท้ายเป็น /-ด-ร/-ฟ-ฟ/

สร้อย
/----/---ดํ/----/-ลซฟ/----/---ดํ/----/-ซ-ฟ/
/-ดํ-ดํ/-ดํ-ดํ/-ฟซล/-ซ-ฟ/-ฟซล/-ฟ-ซ/-ฟซล/-ซ-ฟ/ *2

ชั้นเดียว 2
/---รํ/-ดํ-รํ/---ฟํ/-ดํ-รํ/-ดํ-ล/-ดํ-ล/-ซ-ล/ซฟ-ซ/
/---ซ/---ซ/--ฟร/-ด-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/-ด-ด/
เที่ยว2 เปลี่ยนสองห้องสุดท้ายเป็น /-ด-ร/-ฟ-ฟ/ *2

สร้อย
/----/---ดํ/----/-ลซฟ/----/---ดํ/----/-ซ-ฟ/
/-ดํ-ดํ/-ดํ-ดํ/-ฟซล/-ซ-ฟ/-ฟซล/-ฟ-ซ/-ฟซล/-ซ-ฟ/ *2
กลับไปเล่ยชั้นเดียวตั้งแต่ต้นใหม่ (หรือไม่กลับก็ได้) ลงจบ /---ด/---ร/---ฟ/