30.1.51

คนเราทุกวันนี้ดูจะนับถือกันด้วย ลาภ ยศ ตำแหน่ง เงินตรา วัตถุนิยม


คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยาใช่ตาหวานคนเราทุกวันนี้ดูจะนับถือกันด้วย ลาภ ยศ ตำแหน่ง เงินตรามากกว่าจะนับถือกันด้วยความดีที่ได้กระทำ ยึดติดกับวัตถุและอำนาจเงินตรายกย่องสรรเสริญกันที่เพียงเปลือกนอก เนื้อในจะเป็นเช่นไรไม่สำคัญเพราะเหตุนี้เอง มันเลยทำให้สังคมดูจะเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆบางคนรวย มีเงิน มีอำนาจ มีบารมี และพยายามใช้ความได้เปรียบให้ได้มาซึ่งความสะดวกสบาย


บ้างก็แสดงอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย บ้างก็ทำตัวเป็นกฎหมายเสียเองบางคนมียศ มีตำแหน่ง ก็ใช้ยศใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้องทำไมต่างประเทศมีกฎหมายและบทลงโทษออกมาใช้ได้ในระยะเวลาสั้นๆผิดกับเมืองไทย...อย่าว่าแต่กฎหมายใหม่จะคลอดออกมาแต่ละทีเลยกับอีแค่ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเก่ายังใช้เวลานานนับเป็น 10 ปียังมีเลยทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหล่าบรรดาผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ทั้งหลายก็ไม่มีใครอยากจะเสียผลประโยชน์กันทั้งนั้น แต่ถ้าได้ประโยชน์... กรูสนับสนุนเต็มที่ถ้ากรูและพวกเสียประโยชน์ แม้เมิง(คนไทย)จะได้ประโยชน์ ก็รอไปก่อนชาติหน้า...บางคนไม่มีแต่พยายามทำว่าตัวเองมี ดิ้นรนไขว่คว้าเพื่อจะได้มาด้วยวิธีต่างๆนานาคนกลุ่มนี้มีเยอะ และเป็นกลุ่มที่น่าสงสารที่สุด เหมือนเป็นพวกโรคจิตชนิดหนึ่ง
อยากมี อยากได้ อยากให้เป็นที่นับน่าถือตา ด้วยการสร้างภาพให้ดูดีด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์และของนอกกายมีรถราคาแพงๆขับ มือถือทันสมัย หิ้วกระเป๋าหลุย แม้จะต้องเป็นหนี้ก็ตาม


มีแต่ความกระหายไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ ยิ่งไปกว่าคือ "ไม่รู้คุณค่าของตัวเอง" ค้นหาตัวเองไม่เจอ เลยต้องเดินตามเค้าไป เลียนแบบชาวบ้านไปเรื่อยเป็นไปตามกระแส นับถือคนรวยที่เปลือกนอก พาลดูถูกคนจนคนเบี้ยน้อยหอยน้อย กรรมกรแบกหาม แทบไม่เหลือค่าความเป็นคนในสังคมสิทธิ และความเป็นธรรม แทบไม่ต้องไปควานหาไม่อยากเดือดร้อนไปกว่านี้ก็อย่าไปขวางมือ ขวางตีนใครเข้าก็แล้วกันเกิดมาจนเมิงก็จนไปทั้งชาติ ถ้าไม่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ยกชุดคนกลุ่มนี้จะดีหน่อยก็ตรงที่เจียมเนื้อ เจียมตัวเองอยู่เสมอหากวันไหน สิทธิเสรีภาพ ความยุติธรรม ไม่ขึ้นอยู่กับอำนาจเงินตรา บารมี คนกลุ่มนี้ ก็คงจะสามารถป่าวประกาศตัวเองได้ว่า ข้าก็เป็นคนสำคัญของประเทศเหมือนกันนะเฟ้ย...

26.1.51

ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี

ประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นประเพณีทางพุทธศาสนา ของชาวอุบลฯ ซึ่งมีความเจริญในพุทธศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้กำหนดจัดงานขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 และแรม 1 ค่ำเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จัดให้มีขึ้นทุกปี
จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ ได้ความว่า ชาวอุบลราชธานี ได้ทำต้นเทียนประกวดประชันความวิจิตรบรรจงกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2470 จนเมื่อปี พ.ศ.2520 จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษา ให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมโหฬาร สถานที่จัดงานคือ บริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข มีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก โดยขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ พร้อมนางฟ้าประจำต้นเทียน จะเคลื่อนขบวนจาก หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ไปตามถนน มาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง และการแสดงสมโภชต้นเทียน แลเป็นแสงไฟต้องลำเทียนงามอร่ามไปทั้งงาน การจัดงาน จะจัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม ของทุกปี


กิจกรรมหลักๆ จะจัดขึ้นบริเวณทุ่งศรีเมือง ส่วนกิจกรรมพิเศษอื่นๆ จะจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี นอกจากจะเป็นงานที่แสดงออกถึง การยึดมั่นสืบสานงานบุญทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวเมืองอุบลฯ แล้ว ยังเป็นงานที่แสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะของสกุลช่างเมืองอุบลฯ อีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากบรรดาช่างศิลป์เมืองอุบลฯ ที่มีอยู่มากมายหลากหลายแขนง และผลิตงานด้านศิลปอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปร่วมสมัย งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และงานก่อสร้างตกแต่งโบสถ์วิหารต่างๆ จะใช้โอกาสในช่วงเทศกาลนี้กลับมาทดสอบ ทดลองและประลองฝีมีเชิงช่างโดยผ่านต้นเทียนพรรษา ดังนั้น ผู้ที่มาร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี จึงสามารถชื่นชมและศึกษากิจกรรมของงาน ทั้งในด้านการสืบสานจารีตประเพณีพื้นเมือง และในด้านศิลปการตกแต่งต้นเทียนกิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ๆ ได้แก่











1. เยือนชุมชน ชมวิถีวัฒนธรรมการตกแต่งต้นเทียน การไปเยือนชุมชน หรือ คุ้มวัดต่าง ๆ ในช่วงที่กำลังเตรียมการตกแต่งต้นเทียน คือในช่วงประมาณ 2-3 วัน ก่อนวันแห่นั้น นอกจากผู้มาเยือนจะได้ศึกษากรรมวิธีและขั้นตอน การตกแต่งเทียนอันเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นแล้ว ยังจะได้สัมผัสบรรยากาศการร่วมแรงร่วมใจ ของชุมชนในการทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นวิถีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของชาวอุบลฯ สำหรับคุ้มวัดที่น่าสนใจ เช่น วัดบูรพา วัดหนองบัว วัดสว่างอารมณ์ วัดศรีประดู่ทรงธรรม วัดสุทัศวนาราม วัดทุ่งศรีเมือง และวัดผาสุการาม เป็นต้น

2. การเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชาที่วัดงามในเมืองอุบลฯ การเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชาจัดขึ้นในช่วงค่ำของ ตามวัดต่างๆ โดยทั่วไปกิจกรรมนี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่จะได้ชื่นชมเอกลักษณ์ ทางสถาปัตยกรรมพื้นเมือง อันงดงามตามวัดต่างๆ ในอีกมิติหนึ่ง
3. การตั้งแสดงต้นเทียนรอบทุ่งศรีเมือง การแสดงงานศิลปะตกแต่งเทียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในช่วงค่ำของวันอาสาฬหบูชา จะเป็นเวลาที่ต้นเทียน พรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ กว่า 30 ต้น จะถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งไว้ ณ บริเวณถนนรอบๆ ทุ่งศรีเมือง เพื่อเตรียมการเข้าร่วมขบวนแห่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงนี้ต้นเทียนจะได้รับการตกแต่งอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับสถานที่ตั้งจะได้รับการจัดเตรียมไว้อย่างดี เช่น การเตรียมแสงไฟไว้สาดส่องต้นเทียนการประดับประดาบริเวณงาน อย่างเป็นระเบียบ ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชื่นชมศิลปการตกแต่งเทียนอย่างละเอียดละออ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา และอาจกล่าวได้ว่าเป็นการแสดงศิลปะตกแต่งเทียนที่งดงาม และสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย


4. กิจกรรมขบวนแห่เทียนพรรษา จะจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น คือวันเข้าพรรษา ตั้งแต่เวลา ประมาณ 08.00 น. เป็นต้นไป โดยจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนอุปราช ผ่านหน้าศาลากลาง ไปถนนชยางกูร เป็นระยะทางประมาณ 2-3 กม. จึงสลายขบวน รูปแบบของการจัดขบวนประกอบด้วย ขบวนเทียนหลวงพระราชทาน ขบวนต้นเทียนของคุ้มวัดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละขบวนจะประกอบด้วยการแสดง การละเล่น การฟ้อนรำ การบรรเลงดนตรีในรูปแบบของศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การเข้าชมขบวนแห่ ่คณะกรรมการจัดงานจะจัดเตรียมอัฒจันทร์นั่งชมไว้บริการ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด อัตราค่าบริการประมาณท่านละ200 บาท ส่วนการเข้าชมขบวนตามจุดอื่นๆ นั้นสามารถชมได้ตามอัธยาศัยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ขบวนดังกล่าวปกติจะเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย

5. กิจกรรมทำบุญถวายเทียนพรรษา เป็นกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของประเพณีบุญเข้าพรรษา โดยพุทธศาสนิกชนจะนำเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ ไปถวายพระสงฆ์ตามวัดใกล้บ้านเพื่อสืบสานงานบุญและเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง กิจกรรมนี้ผู้มาเยือนสามารถศึกษาชื่นชมและร่วมกิจกรรมได้ตามวัดทั่ว ๆ ไป

6. กิจกรรมอื่นๆ นอกจากกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว คณะกรรมการจัดงานยังได้จัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การจัดงานพาแลง และการประกวดธิดาเทียนพรรษา ณ ลานเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง

ประเพณีผีตาโขน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนนั้น นับเป็นประเพณีที่ชาวด่านซ้ายและชาวบ้านอำเภอใกล้เคียงได้สืบสานกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ แต่มีการเล่นการจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอด่านซ้าย จนกระทั่งกลายเป็นประเพณีที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยการละเล่นผีตาโขนนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีบุญหลวง ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น ที่รวมเอา "งานบุญพระเวส" (ฮีตเดือนสี่) และ "งานบุญบั้งไฟ" (ฮีตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าถ้าใครได้ฟังเทศน์ครบทั้ง 13 กัณฑ์จะได้อานิสงค์แรงกล้า บันดาลให้เกิดไปพบพระศรีอริยเมตไตรย์ในชาติหน้า

ส่วนงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมืองและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งในงานบุญหลวงนี้จะมี "การละเล่นผีตาโขน" ช่วยสร้างความสนุกสนานครื้นเครงในขบวนแห่ด้วย การละเล่นผีตาโขนถือเป็นการแสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันดีงามน่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของชาวอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพราะปัจจุบันมีอยู่เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ชาวด่านซ้ายนั้นจะรอคอยให้ถึงวันงานอย่างใจจดใจจ่อ และตระเตรียมทำหน้ากากผีตาโขนกันอย่างประณีตบรรจงให้สวยงาม เหมือนจะเป็นการประกวดประขันประชันฝีมือกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยหน้ากากผีตาโขนนั้นมักทำจากหวดนึ่งข้าวเก่าๆ นำมาทำเป็นโครง ตกแต่งติดจมูกแหลมโง้งยื่นยาวออกมา แล้วทาสีพื้นก่อนเขียนวาดลวดลายอันอ่อนช้อยงดงามด้วยสีสันสดใส ผีตาโขนที่จะเข้าขบวนแห่นั้น แบ่งออกได้เป็นสองขนาด คือ ผีตาโขนใหญ ่ และ ผีตาโขนเล็ก
สำหรับผีตาโขนใหญ่นั้นจะจัดทำขึ้นเพียง 2 ตัว คือ หญิง 1 ชาย 1 เท่านั้น ผีตาโขนใหญ่จะทำขึ้นจากโครงไม้ไผ่คล้ายกับสุ่มไก่ขนาดใหญ่ จากนั้นก็ตกแต่งด้วยผ้าจนมองไม่เห็นโครงไม้ไผ่ เมื่อเข้าขบวนแห่ก็จะมีคนเข้าไปอยู่ภายในเพื่อยกโครงไม้ไผ่เคลื่อนไปตามขบวน ลักษณะพิเศษของผีตาโขนใหญ่อีกอย่างหนึ่ง คือ จะทำเครื่องเพศหญิง ชายไว้อย่างชัดเจน ผีตาโขนใหญ่นี้บุคคลทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตจัดทำขึ้น มีเพียงกลุ่มคนที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำมาหลายชั่วอายุคนเท่านั้น และก่อนทำก็จะต้องมีการขอขมาสิ่งศักดิ์ก่อน จึงจะสามารถขึ้นโครงร่างได้















สำหรับผีตาโขนเล็ก หรือ ผีตาโขน ที่เราจะพบเห็นในขบวนแห่ทั่วไปนั้น ชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เคียงจะจัดทำขึ้นเพื่อเข้าร่วมขบวนแห่ เดิมทีนั้นจะมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ร่วมขบวนแห่ แต่ปัจจุบันมีการจัดขบวนของทางโรงเรียนซึ่งมีนักเรียนหญิงแต่งกายเป็นผีตาโขนเข้าร่วมด้วย การแต่งกายของผีตาโขนนั้น จะนำเศษผ้ามาเย็บเป็นชุดเพื่อปิดบังร่างกาย และสวมหน้ากากที่ทำขึ้นจากโคนของทางมะพร้าว นำมาตัดแต่งให้เป็นรูปหน้า รูปตา และเติมจมูกยาว ๆ คล้ายกับงวงช้าง ทำการวาดลวดลายเติมสีสันอย่างสวยงาม ส่วนหัวที่ทำคล้ายเขาของผีตาโขนนั้น จะนำเอาหวดนึ่งข้าวที่ทำด้วยไม้ไผ่มาเย็บต่อจากกาบมะพร้าวนั่นเอง และสิ่งที่ ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ "หมากกะแหล่ง" หรือ กระดึงสำหรับผูกคอวัว นำมาห้วยเป็นพวกไว้ที่เอว เพื่อเวลาเดินจะเกิดเสียงดังตลอดเวลา ปัจจุบันมีการนำกระป๋องมาบรรจุลูกหินเผื่อใช้แทนหมากกะแหล่ง ส่วนชุดของผีตาโขนนั้นก็มักจะใช้เสื้อผ้า มุ้ง ผ้าห่ม หรือเศษผ้าเก่าๆมาตัดเย็บเล่นสีสันลวดลาย หรืออาจมีการระบายสีเพิ่มเติม โดยชุดผีตาโขนและหน้ากากผีตาโขนนั้นจะทำกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในระยะหลังๆนี้มีการลงทุนตัดชุดกันอย่างสวยงาม ซึ่งพอถึงวันเล่นผีตาโขน เมื่อทุกคนสวมใส่ชุดเข้าไปและสวมหน้ากากก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทุกตนก็จะกลายเป็นผีหมด ทั้งผีเล็กผีใหญ่ รวมทั้งผีตัวน้อยๆ ลงไปถึงผีตัวจิ๋วระดับอนุบาล ก็จะสนุกสนานกับการเต้นรำเดินหลอกหลอน ล้อเล่นกับผู้คนไปทั่วทั้งเมือง เรียกว่าสนุกสนานกันอย่างสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่ต้องวางมาด ไม่ต้องเก๊กหล่อเหมือนเช่นทุกๆวัน จึงเป็นงานที่สนุกสนานกันอย่างสุดๆของบรรดาผีหนุ่มๆ ที่มักชอบเดินเที่ยวแถเข้าไปเต้นหลอกหลอนเต้นรำต้อนสาวๆ


อาวุธประจำกายของผีตาโขนเป็น ดาบไม้ แต่มีไม่น้อยที่นิยมถือ ปลัดขิก ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เย้าแหย่สาว ๆ ที่มาชมขบวนแห่เป็นที่สนุกสนานโดยไม่มีการถือโกรธกันแต่อย่างใด ไม่ถือเป็นเรื่องหยาบ หรือลามกเพราะมีความเชื่อกันว่าหากเล่นตลกและนำอวัยวะเพศชายหญิงมาเล่นมาโชว์ในพิธีแห่และงานบุญบั้งไฟจะทำให้ พญาแถน พอใจ ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์
ในขบวนแห่ผีตาโขนนั้น ชาวด่านซ้ายจะร่วมกันสร้างผีตาโขนใหญ่ เป็นผีตาโขนชาย และผีตาโขนหญิง ซึ่งจะมีขนาดสูงใหญ่โดดเด่นแห่ไปในขบวน และคงไม่ต้องบอกว่าผีตาโขนใหญ่ตนไหนเป็นผีตาโขนชาย ตนไหนเป็นผีตาโขนหญิง เพราะแต่ละตนจะมีอวัยวะประจำกายบ่งบอกเสร็จสรรพ ซึ่งใครเห็นก็คงต้องอมยิ้ม สิ่งเหล่านี้ ความเชื่อเหล่านี้เป็นประเพณีที่สืบสานกันมาแต่ครั้งโบราณกาล ซึ่งเรามักจะเห็นสัญลักษณ์เหล่านี้ได้ตามขบวนแห่เช่นในขบวนแห่บั้งไฟ หรือขบวนแห่นางแมวขอฝน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการก่อเกิด สัญลักษณ์ของความเพิ่มพูน สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นความรื่นเริงสนุกสนานบันเทิงของผู้คนในทุกยุคทุกสมัย

นอกจากการแห่ไปเป็นขบวนทั่วทั้งเมืองด่านซ้ายอย่างเป็นพิธีรีตองแล้ว บรรดาผีตาโขนก็มักจะรวมกลุ่มกัน ออกเดินหยอกล้อผู้คนที่มาเที่ยวงานไปทั่วทั้งเมืองอย่างสนุกสนาน จนมืดค่ำดึกดื่น กระทั่งเสร็จพิธีในวันสุดท้าย ซึ่งวิธีปฏิบัติในอดีตนั้น เมื่อจบงานบรรดาผีตาโขนก็จะนำหน้ากากและเครื่องแต่งกายผีตาโขนไปทิ้งและไม่มีการนำมาเล่นกันอีกจนกว่าจะถึงวันงานประเพณีในปีหน้า แต่ในปัจจุบันการทำหน้ากากผีตาโขน และเครื่องแต่งกายผีตาโขนนั้นมีการลงทุนใช้วัสดุอย่างดี ใช้ผ้าที่สวยงามตัดเย็บเป็นชุดผีตาโขน ในทางปฏิบัติจึงเปลี่ยนไป โดยจะเก็บรักษาหน้ากากและชุดผีตาโขนไว้เพื่อนำมาเล่นใหม่ในปีหน้า ใครที่ยังไม่เคยเดินทางไปชมผมอยากจะแนะนำให้ลองไปชมประเพณีอันสนุกสนานนี้สักครั้ง และคงต้องรีบตัดสินใจสักหน่อย เพราะด่านซ้ายเป็นเพียงอำเภอชายแดนเล็กๆ ของจังหวัดเลย ที่พักมีน้อยต้องรีบจองรีบหา หรือไม่ก็อาจจะเลือกพักในตัวเมืองเลย หรืออำเภออื่นๆอย่างภูเรือแล้ววิ่งรถมาชมงานก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

เพลง ระบำสุโขทัย











เพลง ระบำศรีวิชัย

สองชั้น
/----/-ร-ฟ/-ด-ร/-ฟ--/-ฟซล/-ดํ-รํ/-ฟํ-รํ/-ฟํ-รํ/
/----/-ดํ-ล/-ดํ-รํ/-ฟํ-รํ/-ล-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ล/ซฟ-ซ/
/----/---ด/----/---ซ/---ฟ/-ซ-ด/-ซ-ฟ/ซฟซซ/
/----/---ด/---ร/---ฟ/--ซฟ/-ซ-ล/-ดํ-ล/-ดํ-ล/
/----/-ดํ-ล/-ดํ-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/ดรดด/
/----/-ด-ล/--ดลฺ/ดลฺดด/---ลฺ/ดลฺดด/-ลฺดด/-ดฺดด/ *4

ชั้นเดียว 1
/---ด/-ร-ฟ/ซฟซล/-ดํ-ล/-ดํ-ล/-ซ-ล/-ดํ-รํ/-ดํดํดํ/
/---รํ/-ดํ-ล/-ซ-ล/ซฟ-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/-ดดด/ *2
เที่ยว2 เปลี่ยนสองห้องสุดท้ายเป็น /-ด-ร/-ฟ-ฟ/

สร้อย
/----/---ดํ/----/-ลซฟ/----/---ดํ/----/-ซ-ฟ/
/-ดํ-ดํ/-ดํ-ดํ/-ฟซล/-ซ-ฟ/-ฟซล/-ฟ-ซ/-ฟซล/-ซ-ฟ/ *2

ชั้นเดียว 2
/---รํ/-ดํ-รํ/---ฟํ/-ดํ-รํ/-ดํ-ล/-ดํ-ล/-ซ-ล/ซฟ-ซ/
/---ซ/---ซ/--ฟร/-ด-ซ/-ฟ-ร/-ฟ-ร/-ด-ร/-ด-ด/
เที่ยว2 เปลี่ยนสองห้องสุดท้ายเป็น /-ด-ร/-ฟ-ฟ/ *2

สร้อย
/----/---ดํ/----/-ลซฟ/----/---ดํ/----/-ซ-ฟ/
/-ดํ-ดํ/-ดํ-ดํ/-ฟซล/-ซ-ฟ/-ฟซล/-ฟ-ซ/-ฟซล/-ซ-ฟ/ *2
กลับไปเล่ยชั้นเดียวตั้งแต่ต้นใหม่ (หรือไม่กลับก็ได้) ลงจบ /---ด/---ร/---ฟ/



25.1.51

เรื่องราวต่างๆจากการเดินทาง ในฐานะผู้ไปเยือน บางครั้งอาจจะไม่เข้าใจอะไรได้ลึกซึ้ง เพราะทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาทั้งสิ้น... บางครั้งสิ่งที่เราได้รู้ได้เห็นก็เป็นเพียงเปลือกนอก ได้ยินได้ฟังเค้าเล่ามาอีกที ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป และในแต่ละครั้ง ณ ที่ที่เดิม แต่เวลาเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นกัน

19.1.51

Casio SRT800

รุ่นนี้ได้มาแค่เรือนเดียวเป็นนาฬิกาเรียกว่าจะตกรุ่นแล้วก็ว่าได้ แต่ที่ซื้อเพราะสนนราคาลดลงมาเยอะ น้ำหนักเบามาก และเป็นสีฟ้าด้วย เป็น Casio STR800-2V ซื้อมาจาก Casio Seacon Square

The perfect watch for every runner. This watch’s lap memory can store up to 500 records in memory, each record including the lap and split time. With its stopwatch and countdown timer, you’ll have the perfect running partner. Black Casual Sports Watch with a resin band.
Technical Specs
* 50M Water Resistant
* Auto EL Backlight with afterglow
* World Time29 time zones (27 cities), city code display, daylight saving on/off
* Daily Alarm
* Countdown TimerMeasuring unit: 1 secondCountdown range: 1 minute to 24 hours
Auto-repeat function
* 1/100 second stopwatchMeasuring capacity: 99:59'59.99" Measuring modes: Elapsed time, lap/split timeMemory capacity: Up to 500 lap/split numbers and times
* Hourly Time Signal
* Auto Calendar (pre-programmed until the year 2039)
* 12/24 Hour Formats
* Accuracy: +/-15 seconds per month
* Battery CR2016
* Approx. battery life: 3 years
* Module 2877 Size of case / total weight51.8 x 46.2 x 11.6mm / 37g

Casio STR900J


2 เรือนนี้ซื้อได้ในราคาลด 50% ซื้อ 1 แถม 1 จากสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงเดินทางไปจัดประชุมที่เวียดนาม


EL backlightAuto light switch, afterglow
•Dual time
•Stopwatch: Time and distance measurementsMeasuring unit: 1/100 second (upper part of the display for first 60 minutes, lower part of the display for first 10 hours) or 1 second (upper part of the display after 60 minutes, lower part of the display after 10 hours); 0.1 miles or km*Changeover between kilometers (km) and miles (mi)Measuring capacity: from 0:00'00"00 to 99:59'59"; 99.9 miles or km; 999.9 miles or km (total distance covered)Measuring modes: Elapsed time, lap/split timesMemory capacity: Up to 61 records (used by lap/split time records and log title screens); total distance coveredBasic data input: Stride length 40 to 190 cm (16 to 76 inch)*Changeover between centimeters (cm) and inch (in)Others: Pacer signal; lap/split number (from 01 to 99); Best lap time screen
•Countdown timerMeasuring unit: 1 secondCountdown range: 100 hoursCountdown start time setting range: 1 minute to 100 hours (1-minute increments and 1-hour increments)Other: Auto-repeat
•Daily alarm5 independent daily alarms (4 one-time alarms and 1 snooze/one-time alarm)
•Hourly time signal
•Auto-calendar (to year 2039)
•12/24-hour format
•Regular timekeeping: Hour, minutes, seconds, pm, year, month, date, day
•Accuracy: ±20 seconds per month
•Approx. battery life: 5 years on CR2025
•Size of case / total weight48.3 X 45.5 X 12.3 mm / 42 g

10.1.51

คนไทย รู้จักตัวเองกันดีแค่ไหน?

ตัวเองในที่นี้ หมายถึง “ประเทศไทย”ของเราจะมีสักกี่คน ที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ทั้งหมดโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ประเทศไทยมีเนื้อที่เท่าไหร่... ตั้งอยู่ตรงส่วนไหนของโลก... แล้วมีประชากรเท่าไหร่... GDP ของประเทศไทยเป็นเท่าไหร่... รายได้หลักของประเทศมาจากไหน... เอาแค่ 5 คำถามเหล่านี้ เป็นคำถามพื้นๆที่คนไทยมักจะถูกถามกันบ่อยๆ แม้จะเป็นคำถามพื้นๆ ง่ายๆ แต่เคยรู้บ้างไหมว่า คนไทยอีกหลายล้านคนไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
คนเราเมื่อไม่รู้จักตัวเอง... แล้วจะพัฒนาตัวเอง ไปได้อย่างไร?
ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115.020 ตารางกิโลเมตร หรือ 320,696,887.500 ไร่ หรือ ประมาณ 198,953 ตารางไมล์ (ข้อมูลพื้นที่จากอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 6 ภาคผนวก พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2529)
ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหนือเส้นศูนย์สูตรเล็กน้อย หรือ ระหว่างเส้นละติจูด (เส้นรุ้ง) 5 องศา 37 ลิปดาเหนือ กับ 20 องศา 27 ลิปดาเหนือ และ ระหว่างลองติจูด (เส้นแวง) ที่ 97 องศา 22 ลิปดาตะวันออก กับ 105 องศา 37 ลิปดาตะวันออก ส่วนที่แคบที่สุด อยู่ในเขต จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 10.96 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัยในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่เดิมชื่อ “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นยอดดอยที่สูงสุดของประเทศไทยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 2,565.3341 เมตร
ประชากรในประเทศไทย ปี 2547 มีประชากร 61,973,621 ราย เป็นชาย 30,616,790 ราย หญิง 31,356,831 ราย (ที่มา: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย)

ปี 2548 GDP (PPP) รวม ค่าประมาณ $559.5 พันล้าน และ GDP ต่อประชากร $8,542

Blowing In The Wind

How many roads must a man walk down
Before they call him a man?
How many seas must a white dove sail
Before she sleeps in the sand?
How many times must the cannon balls fly
Before theyre forever banned?
The answer, my friend, is blowin in the wind
The answer is blowin in the wind.

How many years must a mountain exist
Before it is washed to the sea?
How many years can some people exist
Before theyre allowed to be free?
How many times can a man turn his head
And pretend that he just doesnt see?
The answer, my friend, is blowin in the wind
The answer is blowin in the wind.
How many times must a man look up
Before he can see the sky?
How many ears must one man have
Before he can hear people cry?
How many deaths will it take till he knows
That too many people have died?
The answer, my friend, is blowin in the wind
The answer is blowin in the wind.
The answer is blowin in the wind.

8.1.51

ระยะทางจากกรุงเทพ ถึง แต่ละจังหวัด

กรุงเทพ-กระบี่ 814 กม. กรุงเทพ-กาญจนบุรี 128 กม. กรุงเทพ-กาฬสินธุ์ 519 กม.
กรุงเทพ-กำเเพงเพชร 358 กม. กรุงเทพ-ขอนเเก่น 449 กม.
กรุงเทพ-จันทรบุรี 245 กม. กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา 82 กม.
กรุงเทพ-ชลบุรี 81 กม. กรุงเทพ-ชัยนาท 194 กม. กรุงเทพ-ชัยภูมิ 342 กม.
กรุงเทพ-ชุมพร 463 กม. กรุงเทพ-เชียงราย 785 กม. กรุงเทพ-เชียงใหม่ 696 กม.
กรุงเทพ-ตรัง 828 กม. กรุงเทพ-ตราด 315 กม. กรุงเทพ-ตาก 426 กม.
กรุงเทพ-นครนายก 107 กม. กรุงเทพ-นครปฐม 56 กม. กรุงเทพ-นครพนม 740 กม.
กรุงเทพ-นครราชสีมา 259 กม. กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช 780 กม. กรุงเทพ-นครสวรรค์ 240 กม.
กรุงเทพ-นนทบุรี 20 กม. กรุงเทพ-นราธิวาส 1149 กม. กรุงเทพ-น่าน 668 กม.
กรุงเทพ-บุรีรัมย์ 383 กม. กรุงเทพ-ปทุมธานี 46 กม. กรุงเทพ-ประจวบ 281 กม.
กรุงเทพ-ปราจีน 136 กม. กรุงเทพ-ปัตตานี 1055 กม.
กรุงเทพ-พะเยา 691 กม. กรุงเทพ-พังงา 788 กม. กรุงเทพ-พัทลุง 840 กม.
กรุงเทพ-พิจิตร 344 กม. กรุงเทพ-พิษณุโลก 377 กม. กรุงเทพ-เพชรบุรี 123 กม.
กรุงเทพ-เพชรบูรณ์ 346 กม. กรุงเทพ-เเพร่ 551 กม.
กรุงเทพ-ภูเก็ต 862 กม. กรุงเทพ-มหาสารคาม 475 กม. กรุงเทพ-มุกดาหาร 642 กม.
กรุงเทพ-เเม่ฮ่องสอน 924 กม. กรุงเทพ-ยโสธร 531 กม. กรุงเทพ-ยะลา 1084 กม.
กรุงเทพ-ร้อยเอ็ด 512 กม. กรุงเทพ-ระนอง 568 กม. กรุงเทพ-ระยอง 179 กม.
กรุงเทพ-ราชบุรี 100 กม. กรุงเทพ-ลพบุรี 153 กม. กรุงเทพ-ลำปาง 599 กม.
กรุงเทพ-ลำพูน 670 กม. กรุงเทพ-เลย 520 กม.
กรุงเทพ-ศรีสะเกษ 531 กม. กรุงเทพ-สกลนคร 647 กม.
กรุงเทพ-สงขลา 950 กม. กรุงเทพ-สตูล 973 กม.
กรุงเทพ-สมุทรปราการ 29 กม. กรุงเทพ-สมุทรสงคราม 72 กม. กรุงเทพ-สมุทรสาคร 36 กม.
กรุงเทพ-สระเก้ว 237 กม. กรุงเทพ-สระบุรี 107 กม. กรุงเทพ-สิงห์บุรี 142 กม.
กรุงเทพ-สุโขทัย 427 กม. กรุงเทพ-สุพรรณ 100 กม. กรุงเทพ-สุราฎ 644 กม.
กรุงเทพ-สุรินทร์ 426 กม. กรุงเทพ-หนองคาย 615 กม. กรุงเทพ-หนองบังลำภู 577 กม.
กรุงเทพ-อยุธยา 76 กม. กรุงเทพ-อ่างทอง 105 กม. กรุงเทพ-อำนาจเจริญ 585 กม.
กรุงเทพ-อุดร 564 กม. กรุงเทพ-อุตรดิตถ์ 491 กม. กรุงเทพ-อุทัย 219 กม. กรุงเทพ-อุบล 592 กม.

1.1.51

สถิติการวิ่งทั่วไป ปี 2551

วันที่ - รายการ - สถานที่ - ระยะทาง (กม.) - ระยะสะสม – (อันดับที่ – ถ้วยรางวัล)
06 ม.ค. มะขามหวานมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดหมอก จ.เพชรบูรณ์ 10 10
27 ม.ค.บางบัวมินิมาราธอนราบ 11 บางเขน 10 20 3-1
17 ก.พ.ดอนบอสโกมินิมาราธอน ครั้งที่ 6ราบ 11 บางเขน 10 30
24 ก.พ. สวนธนมินิ-ฮาล์ฟมาราธอนครั้งที่ 3วัดคู่สร้าง อ.พระสมุทรเจดีย์จ.สมุทรปราการ 10 40 4-2
15 มี.ค. พะงันทวิกีฬา เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 15 55
16 มี.ค. ระนองมาราธอน สวนสาธารณะรักษะวาริน จ.ระนอง 42 97 3-3
13 เม.ย. สงกรานต์มาราธอน สวนลุมพินี 42 139
19-20 เม.ย. Full Moon Running Relay ระนอง-ชุมพร 24 163
27 เม.ย. สิงห์บุรีมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน จ.สิงห์บุรี 21 184 3-4
25 พ.ค. มุกดาหารมาราธอน ครั้งที่ 1ร.ร. มุกดาหารวิทยานุกูล จ.มุกดาหาร42 226 2-5
31 พ.ค.สาธารณสุขสตูลมินิมาราธอน ครั้งที่ 4 สาธารณสุขจังหวัดสตูล 10 236 3-6
06 มิ.ย. เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดามินิมาราธอน ครั้งที่ 1 อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว 8 244 2-7
15 มิ.ย. ลากูน่า ภูเก็ตมาราธอน ลากูน่าบีช จ.ภูเก็ต 42 286
06 ก.ค. วัฒนธรรมไทยมาราธอน อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 42 328
13 ก.ค. Super Sports Mini-marathon 2008 ลานอเนกประสงค์ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ 10 338
02 ส.ค. วันรพีมินิมาราธอน ครั้งที่ 8 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ 10 348
03 ส.ค. แม่เมาะมินิ-ฮาล์ฟ รร.แม่เมาะวิทยา อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 21 369
09 ส.ค. สารพัดช่างสุโขทัยมินิมาราธอน ครั้งที่2 สารพัดทช่างสุโขทัย อ.เมือง จ.สุโขทัย 10 379
10 ส.ค. ป้อมพระจุล-พระสมุทรเจดีย์มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 21 400
14 ก.ย. อัมพวาไตรกีฬาผลัดนานาชาติ เทศบาลอัมพวา จ.สมุทรสงคราม 10 410
28 ก.ย. สยามมาราธอน ครั้งที่ 3 บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 42 452 3-8
04 ต.ค. หลวงพ่อคูณมินิมาราธอน ครั้งที่ 8 วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา 10 462 4-9
11-12 ต.ค. ฟูลมูน เกาะพะงันมาราธอน เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 42 504 3-10
19 ต.ค. Green Adventure Racing ค่ายชุมพรอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร 7 511 4-11
14 ธ.ค. ท่องเที่ยวเชิงเกษตรมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน อสค.ไทย-เดนมาร์ก จ.สระบุรี 21 532
21 ธ.ค. มุกดาหาร-สะหวันนะเขตมาราธอน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 จ.มุกดาหาร 42 574
ปี 2551 รวมสนามทั้งสิ้น 26 สนาม ระยะทางโดยรวม 574 กม.