หญิงชรานางหนึ่งถือถุงใบเขื่องเดินเข้าไปในธนาคาร
และกล่าวกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ ว่าต้องการ
ฝากเงินสามล้านบาทแต่ขอคุยกับผู้จัดการโดยตรง
พนักงานเห็นว่าหญิงชรามีเงินจำนวนมาก เลยพาไปห้องผู้จัดการเมื่อไปถึง ผู้จัดการเกิดความสงสัยว่า หญิงชราไปเอาเงินมาจากไหนเลยถามขึ้นว่า
ผู้จัดการ - คุณยายเอาเงินมาจากไหนมากมายครับ?
คุณยาย - ยายชนะพนันมาจ้ะ
ผู้จัดการ - ยายไปพนันอะไรมาเหรอครับ?
คุณยาย - ก็ไม่มีอะไรมากหรอกพ่อหนุ่ม....อยากรู้ใช่ไหม?
เรามาลองพนันกันก็ได้สักแสนนึง เอาไหมล่ะ? ว่าก่อนเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้ไข่ของพ่อหนุ่มจะกลายเป็นสี่เหลี่ยม
ผู้จัดการ - ฮ่าฮ่าฮ้า ล้อเล่นน่า จะพนันกันจริงๆเหรอ?
คุณยาย - จริงๆซิ ยายมีเงินไม่เห็นเหรอนี่ไงตั้งสามล้าน....คุณยายเปิดถุงเงินให้ผู้จัดการดู
ผู้จัดการเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ไข่ของตนจะกลาย เป็นสี่เหลี่ยม เลยตอบตกลงรับคำท้าและนัดแนะกันว่าพรุ่งนี้เช้าเก้าโมงจะมาพบกันอีกที
ตลอดวันนั้นผู้จัดการไม่เป็นอันทำงานเฝ้าแต่คอยคลำไข ่ตัวเองว่ายังกลมๆรีๆ อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาผู้จัดการก็ไม่ลืมที่จะตรวจสอบลูกน้อยทั้งสองใบว่ายังกลมอยู่เหมือนเดิมจริง ๆ
เมื่อคลำดูแล้วก็ยังกลมๆดีอยู่ ผู้จัดการเลยรู้สึก กระหยิ่มใจว่าวันนี้รวยแน่
เวลาเก้าโมงตรงหญิงชรามาที่ธนาคารและตรงไปที่ห้องผู้จัดการทันทีพร้อมกับชายอีกคน
ผู้จัดการ - สวัสดีครับคุณยาย อ้าว...พาใครมาด้วยละนี่?
คุณยาย - อ๋อ…ทนายน่ะ ยายเห็นเงินพนันมันมากเลยพาทนายมาด้วย
ผู้จัดการ - ฮุฮุ…คุณยายผมเสียใจด้วยนะคุณยายแพ้พนันผมแล้วหละไข่ ผมยังกลมอยู่เลยนี่ไง
ว่าแล้วผู้จัดการก็จัดแจงปลดกางเกงลงและเรียกให้หญิง ชรามาตรวจสอบน้องชายได้
หญิงชราจึงเดินเข้าไปแล้วก็ลูบๆคลำๆไข่ผู้จัดการอยู่ สักพักแล้วพูดขึ้นว่า
คุณยาย - อืมมมม ยังกลมอยู่จริงๆ ยายยอมแพ้แล้ว
ขณะที่คุณยายกำลังคลำไข่ผู้จัดการอยู่นั้น... ผู้จัดการเหลือบไปเห็นทนายที่มากับหญิงชรากำลังเอาหั วโขกกำแพงอย่างแรงติดๆกันหลายครั้ง เลยถามคุณยายว่า
ผู้จัดการ - ยายๆ ทนายของยายเขาเป็นอะไรเหรอ?
คุณยาย - อ๋อ… เขาแพ้พนันยายน่ะ
ยายบอกเขาว่า ภายในเที่ยงวันนี้ยายจะได้คลำไข่ผู้จัดการแบ็งค์ใน officeของผู้จัดการเองเลย
ทนายเขาไม่เชื่อ เราเลยพนันกันสองแสน....อิอิอิ..................
29.12.52
16.12.52
งานเดินเพื่อสุขภาพของ คนญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก นอกจากเคล็ดลับการกินแล้ว เนื่องจากภูมิอากาศที่หนาวเย็นทำให้คนญี่ปุ่นชอบออกกำลังกายอีกด้วย และการออกกำลังง่ายๆก็คือ การเดิน-วิ่ง
ประชากรผู้สูงอายุของญี่ปุ่นมีจำนวนมากขึ้น การส่งเสริมการออกกำลังกายในผู้สูงอายุเพื่อให้มีความแข็งแรงของญี่ปุ่นก็มีมากด้วย ซึ่งรวมไปถึงการสนับสนุนให้เด็กหรือเยาวชนเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่เด็ก เพื่อเป็นการฝึกฝนความอดทน
รูปแบบ การเดิน-วิ่งในญี่ปุ่น จึงแตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับนักวิ่งที่ต้องการแข่งขันเรื่องของเวลา ก็จะมีสนามแข่งขันที่ชัดเจน มีการกำหนดระยะเวลา ส่วนคนที่เน้นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพก็จะมีสนามรูปแบบเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ
โดยปกติการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งก็ค่อนข้างจะยุ่งยากพอดูอยู่แล้ว และในญี่ปุ่นก็เช่นกันและดูเหมือนจะยุ่งมากกว่าด้วย เพราะการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งจะพยายามกำหนดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมัครล่วงหน้าเพื่อที่จะทำประกันให้
และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเดินเพื่อสุขภาพ ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมในการเดินแต่ละระยะ งานนี้มี 30 กม. 15กม. และ 7กม. เดินกันวันเสาร์และวันอาทิตย์ สองวันเลย โดยที่ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะเดินวันไหน ระยะเท่าไหร่ตามความถนัด หรือจะเดินทั้งสองวันเลยก็ได้
เนื่องจากอากาศมันหนาวก็แต่งตัวกันอย่างที่เห็น แบกเป้กันของใครของมัน กระติกน้ำ ขวดน้ำพร้อม เนื่องจากมาเดินกันเพื่อสุขภาพ เรื่องรางวัลไม่มี แต่ว่า
ตอนสมัคร... ท่านจะได้แผนที่และคู่มือการเดินของแต่ละสนามและในแต่ละวัน วันเสาร์-อาทิตย์เส้นทางก็จะต่างกัน
แผนที่ที่ได้มา ก็จะมีชองสำหรับประทับตรา ว่าได้เข้าร่วมสนามนี้แล้ว เส้นทางนี้ เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกหรือสะสมสนามการเดิน
ก่อนเริ่มการเดินเพื่อสุขภาพในวันนี้ ก็จะมีการแนะนำเส้นทางของแต่ละระยะ แล้วก็ยืดเส้นยืดสายกันก่อนออกสตาร์ท
ระยะ 30 กม. เริ่มสตาร์ก่อน ตามด้วย 15 กม. ผู้ใหญ่ และ 15 กม. รุ่นเยาว์ และปิดท้ายด้วย 7 กม.
7 กม. เป็นระยะที่สั้นที่สุดคนเดินน้อยที่สุด ดังนั้นก่อนออกสตาร์ท ก็จะมีกิจกรรมสันทนาการสร้างความครื้นเครงกันก่อน โดยมีกลุ่มนักศึกษาเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม
เมื่อเริ่มออกสตาร์ทเจ้าหน้าที่จะคอยประทับบนแผนที่ให้กับนักเดินที่ผ่านจุดสตาร์ทออกไป เหมือนเป็นการเช็คพอยท์เริ่มต้น และก็รับน้ำเพื่อดื่มระหว่างทาง
วันนี้เด็กๆมาเดินกันคนละ 15 กม. โดยจะมีผู้ปกครองพามา เห็นในภาพคงไม่ต้องบอกว่าเยาวชนรุ่นไหน ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน แต่เป็นการฝึกความอดทนให้กับเยาวชน
ที่ญี่ปุ่นเด็กๆส่วนใหญ่ต้องเดินไปโรงเรียน ไม่มีผู้ปกครองขับรถมาส่ง แต่ความปลอดภัยก็สูงกว่าบ่านเรา รถไม่เยอะ แล้วก็ถือว่าคนเดินถนนมีความสำคัญและได้รับการดูแลตามกฏหมาย บ้านเราคนต้องหลบรถ แต่ที่นี่รถต้องหยุดให้คนเดินก่อน
มาเดินกันหลายๆคน เด็กๆก็สนุก แทนที่จะรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อย หรือถูกบังคับให้มาวิ่งหรือเดิน
เดินเข้าสู่เส้นชัย ก็ประทับตราอีกรอบ เพื่อแสดงว่าได้เดินสำเร็จแล้ว และรับของที่ระลึกจากการแข่งขัน
เด็กๆเดิน 15 กม.
หลังจากเข้าสู่เส้นชัยก็นั่งพักเหนื่อย ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน พรุ่งนี้มาเดินต่อกันอีกวัน...
เส้นทางการเดินแต่ละระยะก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความปลอดภัย
เดินเข้าสู่เส้นชัย ก็ประทับตราอีกรอบ เพื่อแสดงว่าได้เดินสำเร็จแล้ว และรับของที่ระลึกจากการแข่งขัน
ส่วนน้องสามคนนี้เดิน 15 กม. วันเสาร์และวันอาทิตย์เลย... เฮ้อ สุดยอดด...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)